“รู้นะแต่ทำไม่ได้” “เดี๋ยวก่อนดีกว่า” “อยู่แบบนี้มันก็ดีอยู่แล้ว”
เส้นบางๆ ที่กั้นอยู่ระหว่าง “รู้” กับ “ทำ” ถือเป็นกับดักที่ทำให้ใครหลายคนติดอยู่กับวังวนของปัญหาหนี้โดยไม่รู้ตัว บ้างก็มีใช้แต่ไม่มีเก็บ ขณะเดียวกันยังมีมุมมองความเชื่อผิด ๆ ที่ฉุดรั้งการนำไปสู่อิสรภาพทางการเงิน นั่นคือ มองว่ามีกิน มีใช้ ในแต่ละวันมันก็ดีอยู่แล้ว, จะเก็บเงินไปทำไมในเมื่อตอนนี้ก็พออยู่ได้, ไม่จำเป็นต้องเก็บออมให้เหนื่อย
แต่ในโลกที่มีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว การมีเงินสำรองไม่ใช่แค่เรื่องของการ “เผื่อเหลือเผื่อขาด” แต่คือการสร้างรากฐานที่มั่นคงให้กับชีวิต เพื่อพร้อมรับมือกับทุกสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้น
นี่คือ 5 เหตุผลสำคัญที่ทำไมเราต้องเปลี่ยน Mindset เรื่องการออม ในวันที่ “เงิน” ลอยอยู่ในอากาศ จะไขว่คว้า หรือ จะปล่อยให้หลุดลอยก็ย่อมได้
5 เหตุผล ทำไมคนเราต้องเปลี่ยน Mindset เรื่องเก็บเงิน
1. สร้างความมั่นคงในชีวิต ไม่ใช่แค่เรื่องของความหรูหรา แต่คือความจำเป็น
การเก็บเงิน ไม่ได้หมายถึงการต้องมีเงินเป็นล้าน แต่เป็นการสร้างเงินสำรองฉุกเฉินที่จะช่วยพยุงชีวิตเราไว้ในวันที่ไม่คาดคิด เช่น ตกงาน เจ็บป่วย หรือเกิดอุบัติเหตุ การมีเงินก้อนนี้จะช่วยให้เรามีเวลาตั้งหลัก ไม่ต้องรีบหาเงินกู้ หรือขายทรัพย์สินเพื่อประทังชีวิต
2. สานฝันให้เป็นจริง เปลี่ยคน “อยาก” ให้กลายเป็น “ได้”
หลายคนมีความฝันอยากทำธุรกิจส่วนตัว อยากเรียนต่อ อยากไปเที่ยวรอบโลก หรืออยากมีบ้านในฝัน การออมเงินคือการแปลงความฝันให้เป็นเป้าหมายที่จับต้องได้ เมื่อเรามีเงินเก็บมากพอ เราก็สามารถใช้เงินนั้นต่อยอดไปสู่สิ่งที่ต้องการได้จริง ไม่ใช่แค่ฝันลมๆ แล้งๆ
3. ลดความเสี่ยง รับมือกับความผันผวนของโลกยุคใหม่
ในโลกที่ค่าครองชีพสูงขึ้นทุกวัน ราคาข้าวของแพงขึ้นแต่ค่าแรงเท่าเดิม การออมเงินจะช่วยลดความเสี่ยงจากภาวะเงินเฟ้อ และยังเป็นทุนสำรองที่พร้อมรับมือกับวิกฤติเศรษฐกิจที่อาจเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา ทำให้เราไม่ตกอยู่ในสถานการณ์ที่ต้องพึ่งพาผู้อื่นจนเกินไป และอยู่ได้ด้วยลำแข้งตัวเอง
4. ต่อสู้กับหนี้สิน หลุดพ้นจากวังวนของการเป็นหนี้
การมีเงินสำรองจะช่วยป้องกันไม่ให้เราก่อหนี้โดยไม่จำเป็น เช่น เมื่อมีค่าใช้จ่ายฉุกเฉิน เราก็สามารถใช้เงินเก็บมาจัดการได้เลยโดยไม่ต้องไปกู้หนี้ยืมสินเพิ่ม ทำให้เรามีอิสระทางการเงินมากขึ้น และไม่ต้องกังวลกับภาระดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้นทุกวัน
5. สร้างโอกาสทางการเงิน ให้เงินทำงานแทนเรา
เมื่อเราเริ่มออมเงินจนมีเงินก้อน การนำเงินไปลงทุนต่อยอดจะช่วยให้เงินของเรางอกเงยขึ้นมาอีก เช่น การลงทุนในกองทุนรวม หุ้น หรืออสังหาริมทรัพย์ ซึ่งจะช่วยสร้างรายได้เพิ่มเติมให้กับเรา ทำให้เรามีรายได้หลายทาง และไม่ต้องพึ่งพาแค่รายได้หลักจากการทำงานอย่างเดียว
ดังนั้นการออมเงินไม่ใช่แค่เรื่องของการอดออมเพื่ออนาคต แต่คือการสร้างอำนาจในการเลือกและตัดสินใจให้กับชีวิต เมื่อเรามีเงินสำรองที่มากพอ เราจะไม่ต้องก้มหน้ายอมจำนนต่อโชคชะตาหรือสถานการณ์ที่ไม่คาดฝันอีกต่อไป แต่เราจะเป็นผู้ควบคุมอนาคตทางการเงินของตัวเอง และสามารถสร้างชีวิตในแบบที่เราต้องการได้อย่างแท้จริง
ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ -