
เส้นบุก แปรรูปมาจากหัวบุกมีเส้นใยสูงและให้พลังงานต่ำมาก ให้ความหนึบๆ อร่อยๆและพลังงานต่ำ จึงเป็นทางเลือกเพื่อสุขภาพของกลุ่มผู้รักสุขภาพให้กินเส้นได้แบบไม่ต้องรู้สึกผิดแถมสารแป้งในหัวบุก ยังมีกลูโคแมนแนน (Glucomannan) ซึ่งมีชื่อเรียกในภาษาญี่ปุ่นว่า Konjac เป็นเส้นใยธรรมชาติ เมื่อแตกตัวจะได้เป็นน้ำตาลกลูโคสและแมนโนส ซึ่งงานวิจัยหลายชิ้นยืนยันว่าในกระบวนการย่อย แมนโนสจะถูกดูดซึมช้ากว่ากลูโคสน้ำตาลในเลือดจึงเพิ่มขึ้นช้าเหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่เป็นเบาหวานด้วย

โดยเส้นบุก 100 กรัมจะให้พลังงานเพียงประมาณ 10 กิโลแคลอรีเท่านั้น
ประโยชน์ของหัวบุก
- ใช้บุกในการควบคุมน้ำหนักตัว และลดคอเลสเตอรอล เพราะกลูโคแมนแนนที่พองตัวจะห่อหุ้มอาหารที่กินเข้าไป ไม่ให้สัมผัสกับน้ำย่อย จึงใช้บุกในการควบคุมน้ำหนักตัว นอกจากนี้ยังสามารถดูดซับไขมัน และกรดน้ำดี (bile acid) และขับถ่ายออกนอกร่างกาย
- ลดระดับน้ำตาลในเลือด เนื่องจากลดการดูดซึมน้ำตาลกลูโคส
- ช่วยในการขับถ่าย จึงอาจช่วยป้องกันการเกิดมะเร็งในลำไส้ใหญ่ได้
ข้อแนะนำและข้อควรระวังการกินบุก
- เนื่องจากบุกมีสารชนิดหนึ่งที่ทำให้เกิดอาการแพ้ และคันตามผิวหนัง คือแคลเซียมออกซาเลท มีลักษณะเป็นผลึกรูปเข็ม มีมากในเนื้อของหัวบุก ผลึกแคลเซียมออกซาเลท หากสะสมในร่างกายมากๆ อาจทำให้เกิดนิ่วในไตได้ ดังนั้น ควรทำให้สุกก่อน
- ต้นอ่อนของบุก การกินต้นอ่อนของบุกต้องต้มในน้ำเดือนก่อน มิฉะนั้นจะคัน เนื่องจากมีผลึกแคลเซียมออกซาเลท
- หัวบุก ควรแช่ล้างเนื้อในหัวบุก ในน้ำนานมาก โดยขยำเนื้อบุกกับน้ำปูนในและแช่น้ำ แล้วถ่ายน้ำหลายๆครั้ง ก่อนกินควรต้ม นึ่ง หรือปิ้งก่อน
- กินผงวุ้นบุก ในปริมาณสูงอาจทำให้ท้องอืด หรือท้องเดินได้
- กินผงวุ้นบุกในปริมาณสูงต่อเนื่องกันเป็นเวลานาน อาจมีผลทำให้การดูดซึมวิตามินและเกลือแร่ลดลงได้
ขอบคุณข้อมูลจาก : กศน.ชลบุรี,disthai